วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การที่ลูกบอลออกนอกเขตสนาม

การที่ลูกบอลออกนอกเขตสนาม

ลูกบอลถูกทำให้ออกนอกเขตสนาม โดยผู้เล่นคนสุดท้ายที่ถูกลูกบอลก่อนที่ลูกบอลจะออกนอกเขตสนาม โดยถูกสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากผู้เล่น ผู้ตัดสินจะต้องแสดงสัญญาณอย่างชัดเจนว่าทีมใดจะได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเขตสนามการทำให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เป็นการทำผิดกติกา ผู้ตัดสินต้องขานลูกยึดเมื่อไม่แน่ใจว่าทีมใดทำให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
การเลี้ยงลูกบอล

การ เลี้ยงลูกบอลจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นได้ครอบครองลูกบอล แล้วทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่โดยการโยน ปัด หรือกลิ้งลูกบอลแล้วไปถูกลูกบอลอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะไปถูกผู้เล่นคนอื่น ในการเลี้ยงลูกบอลนั้น ลูกบอลจะต้องถูกพื้นสนามภายหลังจากการทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นจะสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอลทันทีที่เขาได้สัมผัสลูกบอลด้วยสองมือ พร้อมๆ กัน หรือทำให้ลูกบอลพักอยู่ในมือใดมือหนึ่งหรือทั้งสองมือ ไม่จำกัดว่าผู้เล่นจะต้องก้าวเท้ากี่ก้าว ขณะที่ลูกบอลไม่สัมผัสมือของเขา


ผู้เล่นจะต้องไม่เลี้ยงลูกบอลครั้งที่สองภายหลังการเลี้ยงลูกบอลครั้งแรกสิ้นสุดลง เว้นแต่ว่าได้เสียการครอบครองลูกบอลเพราะเหตุต่อไปนี้

1. ทำการยิงประตู หรือ

2. ถูกคู่แข่งปัดลูกบอลออกจากการครอบครอง หรือ

3. การ ส่งหรือการทำลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ แล้วลูกบอลไปถูกผู้เล่นคนอื่น หรือผู้เล่นคนอื่นถูกลูกบอล ผู้เล่นที่โยนลูกบอลใส่กระดานหลังแล้วไปถูกลูกบอลอีกก่อนที่ลูกบอลจะถูกผู้ เล่นคนอื่น เป็นการทำผิดกติกา เว้นแต่ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการยิงประตู

ข้อยกเว้น ต่อไปนี้ไม่ใช่การเลี้ยงลูกบอล
1. การยิงประตูต่อเนื่องกัน

2. เสียการครอบครองลูกบอลโดยบังเอิญ (การที่ลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ) ตอนเริ่มต้นหรือตอนสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอล และได้ครอบครองลูกบอลอีกครั้ง

3. ความพยายามที่จะครอบครองลูกบอล โดยการปัดลูกบอลจากผู้เล่นคนอื่นที่พยายามครอบครองลูกบอล

4. ปัดลูกบอลจากการครอบครองของผู้เล่นคนอื่น

5. สกัดกั้นการส่งเพื่อให้ได้ลูกบอลไว้ครอบครอง หรือ

6. โยน ลูกบอลไปมาจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่ง (หรือทั้งสองมือ) และถือลูกบอลไว้ก่อนที่ลูกบอลจะถูกพื้นสนาม โดยมีข้อแม้ว่าผู้เล่นคนนั้นไม่ได้ทำผิดกติกาว่าด้วยการเคลื่อนที่พร้อมลูก บอล การเลี้ยงลูกบอลครั้งที่สอง เป็นการทำผิดกติกา

วิธีเล่นลูกบอล

วิธีเล่นลูกบอล

กีฬาบาสเกตบอลคือ การเล่นลูกบอลด้วยมือ แต่การพาลูกบอลวิ่ง การเตะลูกบอล หรือการชกลูกบอล เป็นการทำผิดกติกา

การ เตะลูกบอลหรือสกัดลูกบอลด้วยส่วนหนึ่งส่วนใดของผู้เล่นเป็นการทำผิดกติกาได้ เมื่อการกระทำโดยจงใจเท่านั้นและการที่เท้าหรือขาถูกลูกบอลโดยไม่ถือเป็นการ ทำผิดกติกา
การ ครอบครองลูกบอล ผู้เล่นได้ครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นถือลูกบอลหรือเลี้ยงลูกบอลดี หรือในกรณีที่ครอบครองลูกบอลนอกเขตสนามก็ต่อเมื่อลูกบอลอยู่ในมือของผู้เล่น เพื่อส่งลูกบอลเข้าเล่น

ทีมครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นของทีมนั้นได้ครอบครองลูกบอล รวมทั้งเมื่อลูกบอลถูกส่งไปมาระหว่างผู้เล่นของทีมนั้น ซึ่งทีมจะได้ครอบครองลูกบอลต่อไปจนกระทั่งคู่แข่งขันได้แย่งการครอบครองลูกบอล หรือเกิดมีบอลตาย หรือได้มีการยิง

ประตูตอนที่ลูกบอลหลุดออกจากมือผู้ยิงประตูไปแล้ว

- ผู้เล่นออกนอกเขตสนาม-ลูกบอลออกนอกเขตสนาม

- ผู้เล่นจะออกนอกเขตสนามเมื่อสัมผัสพื้นบนเส้นขอบสนาม หรือนอกเขตสนาม

- ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เมื่อถูกสิ่งต่อไปนี้


1. ผู้เล่นหรือบุคคลอื่นผู้ซึ่งอยู่นอกเขตสนาม หรือ

2. พื้นหรือวัตถุอื่นใดนอกเขตสนาม หรือ

3. สิ่งค้ำยันหรือด้านหลังของกระดานหลัง

คำอธิบายกติกาการเปลี่ยนตัว

คำอธิบายกติกาการเปลี่ยนตัว

1. เมื่อเกิดการฟาวล์ การโยนโทษจะพิจารณาเป็นชุดหรือเป็นกลุ่มของการฟาวล์

คำนิยาม

ชุด อาจจะมีลักษณะดังนี้ คือ โยนโทษ 1 ครั้ง หรือโยนโทษ 1+1 หรือ โยนโทษ 2 ครั้ง หรือโยนโทษ 3 ครั้ง

กลุ่ม อาจจะมีลักษณะดังนั้ คือ

- โยนโทษ 1+1 และโยนโทษ 2 ครั้ง

- โยนโทษ 2 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง + การครอบครองบอล

- โยนโทษ 1 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง

- และการโยนโทษลักษณะผสมใด ๆ ของกลุ่มที่นอกเหนือจากนี้

2. ถ้าภายหลังได้เริ่มดำเนินการโยนโทษของกลุ่มการโยนโทษ แล้วปรากฎว่ามีการฟาวล์ หรือการทำผิดระเบียบเกิดขึ้นก่อนจะเริ่มเดินเวลาการแข่งขัน การลงโทษคือ การโยนโทษ (ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง) การเล่นลูกกระโดด หรือการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้างอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็ให้เปลี่ยนตัวเพิ่มได้อีก

ลักษณะของการดำเนินการแข่งขันต่อ

ลักษณะของการดำเนินการแข่งขันต่อ

ภายหลังที่มีบอลตายด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม ให้ดำเนินการแข่งขันต่อไปนี้

1. ถ้าทีมใดทีมหนึ่งได้ครอบครองลูกบอลมาก่อน ให้ผู้เล่นของทีมนั้นได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้างใกล้กับจุดที่ บอลตายมากที่สุด

2. ถ้าไม่มีทีมใดได้ครอบครองลูกบอลมาก่อน ให้เล่นลูกกระโดดที่วงกลมใกล้กับจุดที่บอลตายมากที่สุด

3. หลังการฟาวล์

4. ภายหลังลูกยึด

5. ภายหลังการหมดเวลาแต่ละครึ่งหรือเวลาเพิ่มพิเศษ

6. ภายหลังลูกบอลออกนอกเขตสนาม

7. ภายหลังการทำผิดระเบียบ
หัวหน้าทีม หน้าที่ และอำนาจ

เมื่อมีเหตุจำเป็น หัวหน้าทีมจะต้องเป็นผู้แทนของทีมในสนามแข่งขันสามารถพูดกับผู้ตัดสินเพื่อขอคำอธิบาย หรือเพื่อขอทราบข้อมูลที่จำเป็น แต่ต้องกระทำด้วยความสุภาพ

ก่อนออกจากสนามแข่งขันด้วยเหตุอันควรใดๆ ก็ตาม หัวหน้าทีมต้องแจ้งต่อผู้ตัดสินที่หนึ่งว่าผู้เล่นคนใดจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมแทนขณะที่เขาออกจากสนามแข่งขัน

ผู้เล่นสำรอง

ผู้เล่นสำรอง

ผู้ เล่นสำรองก่อนที่จะเข้าไปในสนามต้องรายงานตัวต่อผู้บันทึก และต้องพร้อมที่จะทำการแข่งขันได้ทันที โดยผู้บันทึกจะต้องให้สัญญาณทันทีที่มีบอลตาย และหยุดเวลาการแข่งขัน แต่ต้องกระทำก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นอีกครั้งหนึ่งภายหลังการทำผิด ระเบียบ เฉพาะทีมที่ไม่ได้ทำผิดระเบียบคือ ทีมที่จะส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเขตสนามทางเส้นข้างมีสิทธิ์เปลี่ยนตัวผู้ เล่น ถ้าได้มีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งจะมีสิทธิ์เปลี่ยนตัวได้ ผู้เล่นสำรองจะต้องรออยู่นอกเส้นข้างจนกว่าผู้ตัดสินได้ให้สัญญาณจึงจะเข้า ไปในสนามแข่งขันได้อย่างทันที
การ เปลี่ยนตัวต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าผู้ตัดสินเห็นว่มีการชักช้าโดยไร้เหตุผลอันควร ก็ให้เป็นเวลานอกแก่ทีมที่ล่าช้านั้นผู้เล่นที่จะเล่นลูกกระโดดจะไม่ให้ เปลี่ยนตัวกับผู้เล่นคนอื่น

ผู้เล่นที่ได้เปลี่ยนตัวออกไปแล้วจะไม่ให้เข้าไปในสนามแข่งขันอีกในช่วงการเปลี่ยนตัวเดียวกันจะไม่ให้มีการเปลี่ยนตัวในกรณีต่อไป

1. ภายหลังการทำประตูได้ เว้นแต่ว่าได้มีการให้เวลานอก หรือมีการขานฟาวล์ หรือ

2. จากช่วงเวลาตั้งแต่ลูกบอลเข้าสู่การเล่นเพื่อการโยนโทษครั้งแรก หรือครั้งเดียว กระทั่งได้มีบอลตายอีกครั้งหนึ่งของช่วงเวลาการเดินนาฬิกาจับเวลาการแข่งขัน หรือกระทั่งมีการขานฟาวล์ หรือมีการกระทำผิดระเบียบก่อนจะเดินนาฬิกา การลงโทษสำหรับการโยนโทษ การเล่นลูกกระโดด หรือการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกสนามทางเส้นข้าง

ข้อยกเว้น ในกรณีที่มีการทำฟาวล์ระหว่างการโยนโทษ จะอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวได้ แต่เฉพาะเมื่อการดำเนินการโยนโทษและการฟาวล์ก่อนหน้านั้นได้เสร็จสมบูรณ์ แล้วเท่านั้น และก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นสำหรับโทษของการฟาวล์ครั้งใหม่ ภายหลังการโยนโทษครั้งเดียวหรือครั้งสุดท้ายได้ผล เฉพาะผู้โยนโทษเท่านั้น จะอนุญาตให้เปลี่ยนตัวได้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องขอเปลี่ยนตัวไว้ก่อนลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นเพื่อโยนโทษ ครั้งแรกหรือครั้งเดียวเท่านั้น ในกรณีนี้อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะเปลี่ยนตัวได้คนหนึ่ง โดยมีข้อแม้ว่าได้ขอเปลี่ยนตัวไว้ก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นก่อนการโยน โทษครั้งสุดท้ายหรือครั้งเดียวนั้น ภายหลังจากที่ผู้บันทึกได้ให้สัญญาณเพื่อการเปลี่ยนตัว ไม่อาจจะบอกยกเลิกการขอเปลี่ยนตัวได้อีก อย่างไรก็ตาม จะขอยกเลิกการขอเปลี่ยนตัวได้ทุกเวลา ก่อนที่ผู้บันทึกจะให้สัญญาณว่ามีการขอเปลี่ยนตัว

ชุดที่ผู้เล่นสวมใส่จะต้องประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้

ชุดที่ผู้เล่นสวมใส่จะต้องประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้

- เสื้อทีม จะเป็นสีเดียว มีลักษณะทึบสม่ำเสมอเหมือนกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ต้องสวมใส่โดยผู้เล่นทุกคนในทีมนั้นเสื้อที่มีลายทางแบบริ้วลายจะไม่อนุญาตให้ใช้

- กางเกงขาสั้น จะเป็นสีเดียว มีลักษณะทึบสม่ำเสมอเหมือนกันทั้งทีม และจะต้องสวมใส่โดยผู้เล่นทุกคนในทีมนั้น

- เสื้อคอกลม (ทีเชิ้ต) อาจจะสวมใส่ได้ภายในเสื้อทีม แต่ถ้าสวมเสื้อคอกลมจะต้องใช้เสื้อคอกลมมีสีเดียว และให้เหมือนกับสีของเสื้อทีม

- ชุดชั้นในของกางเกง ที่ยื่นเลยต่ำกว่ากางเกงขาสั้น อาจจะสวมใส่ได้โดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีสีเดียว และเหมือนกับกางเกงขาสั้น

ในกรณีที่เสื้อทีมมีสีตรงกันให้ทีมเหย้าเปลี่ยนสีเสื้อทีมเมื่อแข่งขันที่สนามกลาง หรือในทัวร์นาเมนต์ทีมที่มีชื่อแรกในโปรแกรมการแข่งขัน และต้องเป็นชื่อแรกในใบบันทึกจะต้องเปลี่ยนสีเสื้อทีม เพราะในทัวร์นาเมนต์หนึ่งๆ แต่ละทีมจะต้องมีเสื้อทีมอย่างน้อย 2 ชุด คือชุดที่เป็นสีจาง และชุดที่เป็นสีเข้ม

สำหรับการแข่งขันที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ให้ทีมที่มีชื่อแรกในโปรแกรมการแข่งขัน (ทีมเหย้า) สวมเสื้อสีจาง และทีมที่มีชื่อที่สอง (ทีมเยือน) สวมเสื้อสีเข้ม

ประวัติบาสเกตบอลในประเทศไทย

ประวัติบาสเกตบอลในประเทศไทย

กีฬาบาสเกตบอลแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในสมัยใด ปีใดนั้น มิได้มีหลักฐานที่จะปรากฏยืนยันแน่ชัดได้ ทราบแต่เพียงว่า ในปี พ.ศ.2477 นายนพคุณ พงษ์สุวรรณ อาจารย์สอนภาษาจีนที่โรงเรียนมัธยมวัดบพิตรพิมุข ได้ช่วยเหลือกรมพลศึกษาจัดแปลกติกาการเล่นบาสเกตบอลขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2478 กระทรวงธรรมการ ได้จัดการอบรมครูจังหวัดต่างๆจำนวน 100 คน ภายในระยะเวลา 1 เดือน และได้รับความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ. หลวงชาติตระการโกศล ผู้ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญทางการเล่นกีฬาบาสเกตบอลคนหนึ่ง ทั้งได้>เคยเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อครั้งท่านกำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกา มาเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีเล่นบาสเกตบอลแก่บรรดาครูที่เข้ารับการอบรม ต่อมาก็เป็นผลทำให้กีฬาบาสเกตบอลแพร่หลายไปทั่วประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2496 สมาคมบาสเกตบอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้ถูกจัดตั้งขึ้นตามแบบอันถูกต้อง โดยจดทะเบียนที่สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ และได้กลายมาเป็นสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยในปีเดียวกันนั้นเอง และในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมบาสเกตบอลระหว่างประเทศ

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข้อห้ามที่ควรรู้ ในการเล่นบาสเก็ตบาส

-เมื่อเราครองบอลขึ้นมาแดนตรงข้าม ไม่ควรจับบอลใกล้เส้นครึ่งสนาม

-เมื่อทำเกมบุกฝ่ายรับที่ตั้งรับแบบ Man To Man แล้วบอลอยู่ในมือ Center ของเรา คนอื่นไม่ควรวิ่งเข้าไปใต้แป้น (เพราะจะเปิดโอกาสให้ทีมรับไปประกบ Center เรา 2 คนพร้อมกันได้ ซึ่งจะทำให้ทำแต้มยาก ต้องปล่อยให้เล่น)

-ตำแหน่งปีก หรือตัววิ่งตัดในประจำทีม ไม่ควรวิ่งตัดเข้าวงในแล้วถอยออกมา หรือวิ่งเข้าวิ่งออก ให้วิ่งตัดผ่านไปเลย (อันนี้เห็นบ่อยในระดับ ประถม มัชธยม)

-ในเกมรับ ไม่ควรหันหลังให้ฝ่ายตรงข้ามที่เราประกบหรือบอล (อันนี้ผมเห็นบ่อยไม่ว่าระดับไหน)

-เวลารีบาวนได้์ใต้แป้น ไม่ควรระเบิดบอล หรือ การขว้างบอลลงพื้นอย่างแรงแล้วจับ จะทำให้เสียโอกาสในการเลี้ยงบอลไป (อันนี้เห็นบ่อยมาก ไม่รู้ทำไมและเพื่ออะไรด้วย ผมก็เป็นตลอดเลยแก้ไม่ได้ซะที)

-เวลารีบาวน์ หรือกระโดดรับบอลได้ ไม่ควรลงพื้นด้วยเท้าของข้างพร้อมกันเพราะเราจะจับบอลและขยับเท้าไม่ได้เลยจะโดนจับวอกกิงทันที(กติกาใหม่ เพิ่มเติ่มขาที่ลงพื้นก่อนเป็นขาหลักน่ะครับถ้าเคลื่อนเท้านั้นก็วอกครับ)

-เกมรับห้ามยืนเป็นแถวหน้ากระดาน เพราะำทำให้ฝ่ายบุกวงฝ่าตรงกลางได้ง่ายมาก (อันนี้หากฝ่ายบุกมี Power และไวพอสมควรเสีบแต้มง่ายๆ)

-เกมบุกห้ามสกรีนให้เพื่อนในระยะประชิดตัว (อันนี้ผมเห็นระดับกีฬาภายในของมหาวิทยาลัย) ถ้าผมเป็นฝ่ายรับแค่ดันคนที่มาสกรีนให้ไปปิดทางคนนมีบอลแทนผมมันก็จบแล้ว ให้ชนกันเอง

-เวลาฟาสเบรก แล้วเพือนโยนลูกไกลมาให้ ไม่ควรให้ลูกตกพื้นก่อน ไม่งั้น ลูกมาน จาสปินหนีเราไปอีกทำให้เสียเวลา มาก จากคุณ doublevisions

-เวลาได้รับบอล อย่าลงบอลทันทีหรือเคาะบอลครั้งเดียวแล้วจับบอลไว้ โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรต่อไป จากคุณ YikYik
(เพราะมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวป้องกันเข้าถึงตัวเราได้ง่ายขึ้น และจะทำให้เพื่อนร่วมทีมเหนื่อยกับการต้องรีบวิ่งมาเอาบอลจากเรา)

-อย่าโชว์การเลี้ยงบอลหรือมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงบอลมากเกินไป เพราะอาจพลาดจังหวะส่งบอลให้เพื่อนทำแต้มได้ จากคุณ YikYik (เฉพาะคนหัดใหม่)

-คนรีบาวได้ไม่ควรเลี้ยงบอลขึ้นไปเอง เพราะการต่อบอลจะทำให้บุกได้เร็วกว่ามาก จากคุณ YikYik

-ห้ามพักเหนื่อยในสนามเวลาแข่ง (อันนี้เห็นบ่อยๆ แต่ลืมลงไปได้ไงก็ไม่รู้ มีหลายคนเข้ามาตอบคล้ายๆแบบเลยนึกขึ้นได้)จาก หลายคน

กติกาการเล่นบาสเกตบอล

การเล่น 
บาสเก็ตบอลเป็นการเล่นที่แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 5 คน
ผู้เล่นแต่ละฝ่ายต้องพยายามนำบอลไปโยนลงในห่วงประตูของ
คู่ต่อสู้และป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ครอบครองบอล หรือทำคะแนน
ได้ผู้เล่นอาจส่งโยน ตี กลิ้ง หรือเลี้ยงบอลไปทิศทางใดก็ได้ให้ถูกต้อง
ตามกติกาที่กำหนดไว้



ระยะเวลาการเล่น
ระยะเวลาแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 20 นาที และให้หยุดพัก
ระหว่างครึ่ง 10 นาที และจะสามารถขอเวลานอกได้ระหว่าง
ครึ่งเวลาเล่นได้ 2 ครั้ง และระหว่างเวลาพิเศษได้ 1 ครั้ง

การผิดระเบียบและการทำฟาวล ์
การทำผิดระเบียบเป็นการละเมิดกติกา การลงโทษให้เสียสิทธิ์
ในการครอบครองบอลเมื่อการละเมิดเป็นการถูกต้องตัวผู้เล่น
ของฝ่ายคู่ต่อสู้ หรือการกระทำ อันผิดมารยาทนิสัยนักกีฬาการ
ผิดระเบียบนี้ถือเป็นการฟาวล์ ซึ่งจะต้องบันทึกฟาวล์ผู้กระทำ
ผิดและลงโทษตามที่กำหนดใว้ในกติกา

ผู้เล่นกระทำผิดเทคนิคเคิลฟาวล์
ผู้เล่นต้องไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ติดสินและคำเตือนของเจ้าหน้าที่
และไม่ใช้วิธีการต่างๆ อันผิดวิสัยของนักกีฬาเช่น
ก. ใช้วาจาไม่สุภาพหรือถูกต้องตัวผู้ตัดสินโดยปราศจากการคารวะ
ข. ใช้คำพูดไม่เหมาะสม แสดงอากัปกิริยาก้าวร้าว
ค. ยั่วเย้าคู่ต่อสู้ หรือใช้มือแกว่งบังสายตาในที่อยู่ใกล้หน้าคู่ต่อสู้
ง. ถ่วงเวลาการเล่น โดยหน่วงเหนียวการส่งลูกเข้าเล่น
จ. ไม่ชูมือของตนขึ้นโดยดีเมื่อผู้ตัดสินชี้ตนเป็นผู้กระทำฟาลว์
ฉ. จับยึดขอบห่วง นานเกินไป(อยู่ที่การพิจารณาของผู้ตัดสิน)
บทลงโทษ จะให้ลงโยนโทษ 2 ครั้ง ต่อความผิด 1 ครั้ง หากเกิด
การทำฟาวล์เทคนิคเคิล 2 ครั้งจะถูกให้ออกจากสนามทันที
การถูกต้องตัวซึ่งกันและกัน ถ้าเกิดการถูกต้องตัวกันขึ้นโดยสุจริตใจ
เพื่อเข้าครอบครองบอล ซึ่งผู้เล่นต่างฝ่ายต่างก็อยู่ในระยะที่จะเข้า
ครอบครองบอล ได้เช่นกัน ให้ถือว่าเป็นการถูกต้องตัวโดยบังเอิญ
ไม่ควรลงโทษฟาวล์ แต่ถ้าเกิดการถูกต้องตัวโดนเจตนา ให้ถือว่า
กระทำฟาวล์ ฟาวล์บุคคล

ฟาวล์บุคคล คือการที่ผู้เล่นได้ถูกต้องตัวฝ่ายคู่ต่อสู้
- การสกัดกั้น ถือว่าเป็นการถูกต้องตัวในเมื่อเข้าไปกีดกั้นคู่ต่อสู้
  ที่ไม่มีบอลไม่ให้ก้าวไป
- การจับหรือยึด ถืดว่าเป็นการถูกต้องตัว เพราะเป็นการกีดกั้น
  ไม่ให้คู่ต่อสู้เคลื่อนที่ไปตามปกติ
- การเข้าป้องกันข้างหลัง ผู้เล่นฝ่ายป้องกันที่พยายามเข้าครอบครอง
  ลูกบอลต้องไม่ถูกต้องตัวผู้เล่น ถ้าผู้เล่นป้องกันถูกตัวผู้เล่นฝ่ายหนึ่ง
  โดยการพยายามเข้าครอบครองบอลจากระยะหรือฐานะที่ตนไม่อยู่
  ในเกณฑ์ที่จำกระทำได้ก่อน จะถูกลงโทษ
- ผู้เล่นต้องไม่จับ ยึด ชน ขัดขา กีดกันการเคลื่อนที่ของคู่ต่อสู้ โดย
  ใช้แขนกางออกใช้ไหล่ สะโพก เข่า หรือโดยการก้มตัวลงอย่างผิด
  ธรรมดา และต้องไม่ใช้มือแตะต้องคู่ต่อสู้
- ผู้เลี้ยงลูก ต้องไม่ชนหรือถูกต้องตัวคู่ต่อสู้ระหว่างเลี้ยงลูกเข้าไป
  หรือต้องไม่พยายามเลี้ยงลูกเข้าไปในระหว่างผู้เล่นฝ่ายป้องกัน 2 คน
  หรือ ระหว่างคู่ต่อสู้กับเส้นเขตสนาม เว้นแต่จะมีที่พอแล้วหลบหลีกไป
- ผู้เล่นกีดกัน คือพยายามขวางคู่ต่อสู้มิให้ผ่านไปสู่จุดหมาย และ
  ผู้ที่ไม่พยายามเล่นลูกถ้าเกิดถูกต้องตัวกันขึ้น ตนเองต้องเป็นฝ่าย
  รับผิดชอบ
บทลงโทษ ปรับโทษฟาวล์บุคคลต่อผู้กระทำผิด 1 ครั้ง ทุกกรณี
ถ้าทำฟาวล์แก่ผู้เล่นในขณะที่ไม่อยู่ในลักษณะกำลังยิงประตู ให้ผู้เล่น
คนใดคนหนึ่ง ของฝ่ายที่ถูกทำฟาวล์ส่งบอลเข้าเล่นทางเส้นข้างใกล้
ที่เกิดเหตุ ถ้าฟาวล์ในขณะโยนประตู ถ้าบอลลงห่วงให้นับคะแนน
เหมือนยิงประตูธรรมดาและให้โยน โทษอีก 1 ครั้ง แต่ถ้าบอลไม่ลง
ห่วงประตูให้มีการโยนโทษ 2 ครั้ง

การฟาวล์เจตนา
ฟาวล์เจตนาเป็นฟาวล์บุคคลที่ทำผิดโดยเจตนา เป็นลักษณะของการ
ฟาวล์ระหว่างการฟาวล์บุคคลกับการฟาวล์อย่างร้ายแรงต้องออก
จากการแข่งขัน ผู้เล่นที่ทำฟาวล์เจตนาซ้ำ ๆ อาจให้ออกจากการ
แข่งขันได้ ผู้เล่นที่ไม่ตั้งใจเล่นลูกแต่ทำให้เกิดการถูกต้องตัวคู่ต่อ
สู้ถือเป็นการฟาวล์เจตนา
บทลงโทษ บันทึกฟาวล์บุคคล 1 ครั้ง แล้วให้โยนประตูโทษ 2 ครั้ง
แต่ถ้าฟาวล์ขณะโยนประตูและลูกลงห่วงให้นับได้คะแนนและโยน
โทษอีก 1 ครั้ง การฟาวล์คู่

ฟาวล์คู่ คือ การที่ผู้เล่นสองคนของทั้งสองฝ่ายทำฟาวล์ซึ่งกันและกัน
หรือเวลาใกล้กัน เมื่อมีการฟาวล์คู่เกิดขึ้น ไม่มีการโยนโทษ แต่ให้บันทึก
ฟาวล์ทั้งคู่ ให้เริ่มเล่นต่อไปด้วยลูกกระโดดที่วงกลมใกล้กับที่เกิดเหตุ
เว้นแต่ได้มีการยิงประตูเข้าห่วง ในขณะเดียวกับการฟาวล์คู่ก็ให้ส่งลูก
เข้าเล่นจากเส้นหลัง ตามกติกาการ ส่งลูกเข้าเล่นจากเส้นหลัง

การฟาวล์ซ้อน
ฟาวล์ซ้อน คือ การที่ผู้เล่นสองคน หรือมากกว่าของอีกฝ่ายหนึ่ง ทำฟาวล์
แก่ผู้เล่นคนเดียวในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน กรณีนี้ให้ปรับบันทึก
ฟาวล์ แต่ละคนที่ทำฟาวล์และให้ฝ่ายที่ถูกทำฟาวล์นั้นโยนโทษ 2 ครั้ง
ไม่คำนึงว่าจะฟาวล์กี่ครั้งถ้าทำฟาวล์คู่ต่อสู้ขณะโยนประตูและลูกลงห่วง
ก็ให้นับคะแนนได้และทำ การโยนลูกโทษอีก 1 ครั้ง

การฟาวล์ 5 ครั้ง
ผู้เล่นใดกระทำฟาวล์ 5 ครั้ง จะเป็นฟาวล์บุคคลหรือฟาวล์เทคนิค
ต้องออกจากการแข่งขัน

การฟาวล์ 7 ครั้ง
ภายหลังจากฝ่ายหนึ่งได้กระทำฟาวล์โดยผู้เล่นถึง 7 ครั้งไม่ว่าจะเป็นฟาวล์
บุคคลหรือฟาวล์เทคนิคก็่ตามในแต่ละครึ่ง (การเพิ่มเวลาพิเศษให้ถือว่าเป็น
ส่วนหนึ่งของครึ่งเวลาหลัง) เมื่อมีการฟาวล์โดยผู้เล่นครั้งต่อไป ให้มีการโยน
โทษ 2 ครั้ง